iPhone – Apple Watch เตรียมเพิ่ม ระบบตรวจจับการชน พร้อมการแจ้งเหตุฉุกเฉิน

iPhone – Apple Watch เตรียมเพิ่ม ระบบตรวจจับการชน พร้อมการแจ้งเหตุฉุกเฉิน

Apple ทำการเตรียมพร้อมที่จะเพิ่ม Crash Detection – ระบบตรวจจับการชน พร้อมกับการแจ้งเหตุฉุกเฉินได้ทันทีให้กับ iPhone และ Apple Watch ภายในปีหน้า เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2564 – สำนักข่าว Wall Street Journal ได้ทำการรายงานว่า Apple ได้เตรียมความพร้อมในการเพิ่มฟังก์ชั่น Crash Detection หรือ ระบบตรวจจับการชน พร้อมกับการแจ้งเหตุฉุกเฉินได้ทันทีให้กับสมาร์ทโฟน iPhone และอุปกรณ์ Apple Watch ภายในปีหน้า

WSJ ได้อธิบายถึงระบบดังกล่าวไว้ว่า มันจะทำงานเมื่อตรวจจับได้ถึงแรงกระทบ 

หรือแรง G ที่เกิดขึ้นโดยกระทันหัน โดยเมื่อระบบจับการกระทบดังกล่าวได้แล้วนั้น ระบบจะทำการขึ้นแจ้งเตือนให้ผู้ใช้งานอุปกรณ์ทั้ง 2 ชิ้นให้ได้รับทราบ และเตรียมดำเนินการติดต่อแก่หน่วยงานฉุกเฉินโดยทันที

โดยในช่วงที่ผ่านมานั้น Apple ได้ทำการทดสอบระบบดังกล่าวนับปี ซึ่งเป็นข้อมูลจากทั้งผู้ใช้งาน iPhone และ Apple Watch ที่ก็พบว่าระบบดังกล่าวนั้นได้ช่วยเหลือผู้ที่ถูกการกระทบโดยฉับพลัน หรือถูกชนจำนวน 5 หมื่นกว่าราย และทำการตรวจจับได้ถึง 10 ล้านกว่าครั้ง

คาดการณ์ว่าระบบนี้นั้นจะปล่อยให้ใช้งานอย่างเป็นทางการภายในปี 2022 โดยคาดว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของ iOS 16 และ WatchOS 9 แต่ทั้งนี้แล้วในรายงานได้กล่าวว่า ช่วงเวลาปล่อยตัวนั้นอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง หรือทาง Apple มีการพิจารณาไม่ปล่อยเลยก็ได้เช่นกัน

ซึ่งระบบนี้ก็ถือว่ามีความคลายคลึงกับระบบแจ้งเตือนเมื่อตก หรือร่วง ที่ได้มีการใช้งานอยู่ในเวลานี้ โดยระบบนั้นจะทำการตรวจจับการร่วงหล่นหรือตกลงในทันที และจะทำการแจ้งเตือนหน่วยงานฉุกเฉินโดยทันทีหากผู้ใช้งานไม่ทำการปิดแจ้งเตือนภายในเวลา 1 นาที

Samsung Galaxy M22 สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด จอแสดงผล 6.4 นิ้วกล้องหลัง 4 ตัว กับกล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh กรุงเทพฯ (4 พฤศจิกายน 2564) – ซัมซุงเปิดตัว Samsung Galaxy M22 สมาชิกใหม่ล่าสุดในกลุ่มสมาร์ทโฟนระดับกลางของซัมซุง ที่มาพร้อมกับจุดเด่น อย่าง หน้าจอ HD+ Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว และรีเฟรชเรทลื่นไหลที่ 90Hz กล้องหลัง 4 ตัว กับกล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh ที่รองรับการชาร์จเร็วสูงสุดถึง 25W มอบการเชื่อมต่อที่ต่อเนื่องไม่มีสะดุด ภาพถ่ายอันยอดเยี่ยม และประสบการณ์การรับชมคอนเทนต์อย่างจุใจ

เพลิดเพลินกับคอนเทนต์ที่สดใสและมีชีวิตชีวา นอกจากจอแสดงผล HD+ Super AMOLED Infinity-U Display ขนาด 6.4 นิ้วบน Galaxy M22 ที่มอบภาพอันคมชัดแล้ว ซัมซุงยังได้อัปเกรดรีเฟรชเรทจาก 60Hz ในรุ่นก่อน มาสู่รีเฟรชเรท 90Hz ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหลยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การรับชมความบันเทิง การท่องเว็บ และการทำงานแบบมัลติทาส์กกิ้ง นอกจากนี้ Galaxy M22 ยังสามารถปรับความสว่างได้สูงสุดถึง 600 nits ใน High Brightness Mode ทำให้เห็นภาพบนหน้าจอได้อย่างชัดเจนแม้ภายใต้แสงแดดจ้า

เก็บช่วงเวลาที่น่าจดจำด้วยสุดยอดกล้องถึงสี่ตัว

Galaxy M22 มีกล้องทรงประสิทธิภาพสี่ตัวที่พร้อมสำหรับการเก็บภาพในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด 

กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล มอบภายถ่ายที่สีสันสดใส ชัดเจนแม้ถ่ายภาพในระยะไกล

Ultra Wide Camera ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ช่วยให้ผู้ใช้ถ่ายภาพทิวทัศน์ได้ครบถ้วนมากยิ่งขึ้นด้วยมุมมองภาพ 123 องศาเสมือนกับที่ตาเห็น

Depth Camera ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ช่วยให้วัตถุในภาพโดดเด่นพร้อมการเบลอพื้นหลังที่นุ่มนวล

Macro Camera สำหรับการถ่ายภาพระยะใกล้ พร้อมจับรายละเอียดในภาพได้อย่างชัดเจน ปิดท้ายด้วยกล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ช่วยให้คุณถ่ายภาพเซลฟี่ได้อย่างสวยงามโดดเด่นราวกับมีสปอร์ตไลท์อยู่ข้างตัว

นอกจากนี้ Galaxy M22 ยังมาพร้อมกับโหมดกล้องอื่นๆ เช่น ฟังก์ชั่น AR เพื่อเพิ่มความสนุกสนานให้กับรูปภาพ และโหมดกลางคืนเพื่อการถ่ายภาพได้อย่างชัดเจนแม้ในที่แสงน้อย

สมาร์ทโฟนทรงพลังเพื่อการใช้งานยาวนานตลอดทั้งวัน Galaxy M22 ได้รับการพัฒนามาจากความคิดเห็นของผู้ใช้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนทรงประสิทธิภาพที่ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานตลอดทั้งวัน ซึ่งสมาร์ทโฟนรุ่นนี้มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ octa-core Helio G80 และ RAM ขนาด 6GB ที่ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะใช้งานแอปพลิเคชันใดก็ตาม และเพื่อให้ตอบโจทย์เหล่าคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ซัมซุงได้ขยายพื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายใน ให้สูงถึง 128GB พร้อมทั้งยังสามารถเพิ่มหน่วยความจำให้มากขึ้นได้ถึง 1TB ผ่านการ์ดหน่วยความจำภายนอก

ทั้งนี้ ด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5,000 mAh ของ Galaxy M22 ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเต็มอิ่มไปกับหลากหลายการใช้งานและความบันเทิงได้อย่างต่อเนื่องยาวนานหลายชั่วโมง และด้วยการรองรับ Super Fast Charge 25W ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวันโดยไม่ต้องเสียเวลาชาร์จนานๆ อีกด้วย

สมาร์ทโฟนเครื่องนี้ได้รับการปกป้องจากภัยคุกคาม ผ่านรักษาความปลอดภัยแบบหลายขั้นตอนของ Samsung Knox ตั้งแต่วินาทีแรกที่เปิดใช้งาน โดยสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ยังรองรับ Android 11 และ One UI เวอร์ชันล่าสุด ที่มอบประสบการณ์การใช้งานอันราบรื่น เพื่อให้ผู้ใช้สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป